|
 |
 |
 |
|
 |
|
ความเป็นมา เรียบเรียงจากบทความประวัติทันตาภิบาล โดยมรว.นิภัสร ลดาวัลย์ ลงในอนุสรณ์ทันตาภิบาล 7-9 (พ.ศ. 2520)
เมื่อปี 2503 Dr.R.Harris ที่ปรึกษาทางด้านทันตกรรมขององค์การอนามัยโลก(WHO)ประจำประเทศไทย ได้เสนอแนะให้แต่งตั้งคณะกรรมการที่ปรึกษาทางทันตกรรมขึ้นในกระทรวงสาธารณสุข เพื่อพัฒนาเกี่ยวกับโครงการทันตกรรม รัฐมนตรีได้มีคำสั่งที่ 123/2503 แต่งตั้งคณะกรรมการดังกล่าวขึ้น เมื่อวันที่ 11 กรกฎาคม 2503 คณะกรรมการได้ให้ความเห็นข้อหนึ่งว่า รัฐบาลควรเห็นความสำคัญในการดูแลทันตสุขภาพแก่เด็ก เพื่อเป็นการส่งเสริมสุขภาพทั่วไปและป้องกันไม่ให้เกิดโรคฟันผุแพร่หลาย ซึ่งมีผลต่อเศรษฐกิจในส่วนรวม คณะกรรมการได้เสนอให้จัดตั้งคลินิกไว้ในโรงเรียนและเห็นควรให้ทันตานามัยที่มีอยู่แล้วในขณะนั้น ทำหน้าที่ดูแลทันตสุขภาพเด็กในโรงเรียนเหล่านั้นภายใต้การดูแลของทันตแพทย์ 1 คนต่อทันตานามัย 5 คน นอกจากนั้นยังเสนอให้จัดวางโครงการผลิตบุคลากรเข้าปฏิบัติราชการตามอัตราส่วนดังกล่าวด้วย
ต่อมาปี พ.ศ. 2506 กระทรวงสาธารณสุขได้เสนอให้คณะรัฐมนตรีพิจารณาแต่งตั้งคณะกรรมการที่ปรึกษาทางทันตสาธารณสุข ตามข้อเสนอของที่ปรึกษาขององค์การอนามัยโลก ที่เสนอว่าโรคในช่องปากนั้นเป็นโรคสำคัญซึ่งจะทำให้สุขภาพของประชาชนดีหรือเสื่อมได้ และการจัดการเกี่ยวกับโรคในช่องปากของประชาชนนั้น ต้องทำทั้งในด้านส่งเสริมป้องกันและรักษา ด้วยความร่วมมือของส่วนราชการทั้งภายในและภายนอกกระทรวงสาธารณสุขในการดำเนินการ และคณะรัฐมนตรีได้มีมติแต่งตั้งคณะกรรมการดังกล่าว ในวันที่ 22 มกราคม 2506 ซึ่งคณะกรรมการชุดนี้มาจากหลายหน่วยงานทั้งจากกระทรวงศึกษาธิการ มหาวิทยาลัย กระทรวงกลาโหม และ กระทรวงสาธารณสุข และเมื่อวันที่ 1 กุมภาพันธ์ 2506 คณะกรรมการชุดนี้ได้พิจารณาเรื่องอบรมพนักงานทันตาภิบาลตามโครงการของกรมอนามัยและสรุปจากการได้ดังนี้
- หลักสูตร ควรมีระยะเวลา 2 ปี กรมอนามัยคัดเลือกเข้าเรียน ปีละ 50 คน
- ผู้เข้ารับการอบรมจะต้องมีพื้นความรู้สอบไล่ได้ชั้น ม.ศ.5 และเป็นหญิง
- ผู้สำเร็จการอบรมแล้วไม่ต้องรับใบอนุญาตประกอบโรคศิลปะ ให้ปฏิบัติงานอยู่ในโรงเรียนเพื่อดูแลทันตสุขภาพเด็กนักเรียนภายใต้การควบคุมของทันตแพทย์
แต่ยังไม่มีการอบรมทันตาภิบาลเลย จนกระทั่ง ปี พ.ศ. 2509 กรมอนามัยได้จัดทำแผนการอบรมขึ้น โดยจะรับผู้เข้าอบรมจากผู้ที่สำเร็จ ม.ศ.5 ระยะเวลาอบรม 1 ½ ปี และเมื่อจบหลักสูตรแล้วจะแต่งตั้งให้ประจำอยู่ที่สถานีอนามัยชั้น 1 เพื่อป้องกันและรักษาโรคฟัน ให้แก่นักเรียนและประชาชน แต่ตอนนั้นยังไม่ดำเนินการเพราะขาดอุปกรณ์และสถานที่การอบรม และกำลังขอความช่วยเหลือจากองค์การอนามัยโลก
ในปี พ.ศ. 2510 กรมอนามัยได้มอบหมายให้กองการศึกษาและฝึกอบรมดำเนินการจัดตั้งโรงเรียนทันตาภิบาลขึ้น และรับสมัครทันตแพทย์จำนวน 5 ท่าน เป็นผู้ฝึกอบรมดังรายชื่อต่อไปนี้
- ทพ.ถวิล อานนท
- ทพญ.เรวดี ต่อประดิษฐ
- ทพ.เลอพงษ์ ศาสตรสาธิต
- ทพญ.สมสุข ศิวายพรามณ
- ทพญ.สังวรณ์ สุชาตานนท
วันที่ 5 มิ.ย.2510 กรมอนามัยจัดประชุมเพื่อปรึกษาเรื่องการจัดตั้งโรงเรียนทันตาภิบาลและเห็นชอบในหลักการที่ว่า
- เห็นชอบในหลักการที่จะอบรมทันตาภิบาล
- ผู้เข้ารับการอบรมจะต้องมีพื้นความรู้สอบไล่ได้ชั้น ม.ศ.5 และเป็นหญิง
- หน้าที่การปฏิบัติงานจะได้พิจารณาละเอียดโดยอนุกรรมการที่จะตั้งขึ้น
- ทันตาภิบาลที่สำเร็จการศึกษาแล้วจะประจำที่สถานีอนามัยชั้น 1 และให้ปฏิบัติงานที่โรงเรียน
- ผู้สำเร็จการอบรมแล้วไม่ต้องรับใบอนุญาตประกอบโรคศิลปะ
- คณะทันตแพทยศาสตร์ยินดีให้ความช่วยเหลือเรื่องวิชาการ
โดยมีที่ปรึกษาจากองค์การอนามัยโลก Dr.G.H.Leslie ซึ่งขณะนั้นดำรงตำแหน่งอธิบดีกรมอนามัยประเทศนิวซีแลนด์มาช่วยดำเนินการ เป็นเวลา 6 เดือน และขออนุมัติเงินจากแผนพัฒนาภาคตะวันออกจำนวน 1,000,000 บาท เพื่อเป็นงบประมาณก่อสร้างตึกทันตาภิบาลเสร็จในปี 2511
ขอบเขตและหน้าที่ของทันตาภิบาล
ทันตาภิบาลมีหน้าที่ดูแลทันตสุขภาพของเด็กวัยก่อนเรียน และเด็กชั้นประถมศึกษาอายุไม่เกิน 14 ปี ภายในคลินิกของกรมอนามัย กระทรวงสาธารณสุข มีขอบเขตการปฏิบัติงานดังนี้
- ตรวจและบันทึกสภาวะผิดปกติของฟัน
- ทำความสะอาดฟัน
- อุดฟันถาวรและฟันน้ำนมที่ผ
- ถอนฟันน้ำนมและฟันถาวรโดยใช้ยาชาเฉพาะตำแหน่ง
- การทายาเพื่อป้องกันฟันผ
- พิจารณาจัดส่งเด็กที่มีปัญหาสบฟันผิดปกติหรือความพิการอื่นๆที่นอกเหนือจากการปฏิบัติงานของตนไปรับการบำบัดจากทันตแพทย
- ให้ทันตสุขศึกษา
โรงเรียนทันตาภิบาลได้เปิดสอนนักเรียนทันตาภิบาลรุ่นแรกเมื่อ เดือนกรกฎาคม 2511
โรงเรียนทันตาภิบาลมีหลักการคล้ายๆคลึงกับ Dental Nurse ของประเทศนิวซีแลนด์ ซึ่งเริ่มดำเนินการมาตั้งแต่ ปี 2468 และประเทศที่ดำเนินการโครงการนี้ไปแล้วก่อนประเทศไทย(ปี 2520) มีดังนี้ มาเลเซีย สิงคโปร์ ศรีลังกา ฮ่องกง และอินโดนีเซีย และภูมิภาคอื่นๆ เช่น อังกฤษ แคนาดา ออสเตรเลีย
สงวนลิขสิทธิ์โดย © สมาคมทันตาภิบาลแห่งประเทศไทย All Right Reserved. ติดประกาศ: 10-12-2010 [ ย้อนกลับ ]
download file
|
|
 |
|
 |
|
 |
 |
 |
 |
|
|
|
|
|
|